ชิป snapdragon 778g จาก Qualcomm ถูกเปิดตัวเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ในรุ่นกลาง

ชิป snapdragon 778g จาก Qualcomm ถูกเปิดตัวเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ในรุ่นกลาง

Qualcomm ได้เปิดตัวชิประดับกลางในตระกูล snapdragon 778g ซึ่งเป็นรุ่นรองของชิปรุ่นท็อปอย่าง Snapdragon 780G ที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟน Mi 11 Lite 5G ของแบรนด์ Xiaomi นี้มีการออกแบบเป็น Kyro 670 ซึ่งประกอบด้วยแกน Cortex-A78 จำนวน 4 แกนที่มีความเร็ว 2.4GHz 

นอกจากนี้ยังมีแกนพลังงานต่ำที่ความเร็ว 1.95GHz และผลิตด้วยกระบวนการ 5nm ของ Samsung ในขณะที่ สแนปดรากอน 778g ผลิตด้วยกระบวนการ 6nm ของ TSMC นอกจากนี้ยังมีการออกแบบจีพียูในชิป ซึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 40% นอกจากนี้ยังมีการใช้ชิปเอไอ Hexagon 770 ในการประมวลผลที่มีพลังงานสูงถึง 12 TOPs สแนปดรากอน 7 gen 1 

ยังรองรับตัวประมวลผลภาพถ่าย (ISP) ที่รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K และมาพร้อมโมเด็มที่รองรับเทคโนโลยี 5G รองรับหน้าจอมือถือที่ความละเอียดสูงสุดรองรับเทคโนโลยี WiFi 6 และ Bluetooth 5.2 บนมือถือจากแบรนด์ในไตรมาสที่สองของปี

ประกาศเปิดตัวชิป Snapdragon 778G ที่มีความสามารถใกล้เคียงกับชิปท็อป รองรับเทคโนโลยี 5G และมีสเปคที่แข็งแกร่ง

ประกาศเปิดตัวชิป Snapdragon 778G ที่มีความสามารถใกล้เคียงกับชิปท็อป รองรับเทคโนโลยี 5G และมีสเปคที่แข็งแกร่ง

Qualcomm ได้ประกาศเปิดตัวชิปเซ็ต 778G อย่างเป็นทางการในวันนี้ สแนปดรากอน 665  ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับสเปคที่ทันสมัยและความสามารถที่ท้าทาย MediaTek ในการแย่งตลาด ชิปเซ็ต 778G ถูกผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตรซึ่ง Qualcomm ยืนยันว่าประสิทธิภาพของ CPU ในรุ่นนี้แรงกว่ารุ่นก่อนถึง 40% และยังมีระบบจัดการพลังงานที่ดีเยี่ยมอีกด้วย ในส่วนของ GPU ชิปเซ็ตนี้ใช้ Adreno 642L 

ซึ่งมีประสิทธิภาพแรงกว่าเจนก่อนถึง 40% ทำให้สามารถรองรับการเล่นเกมและการใช้งานที่ต้องการกราฟิกสูงได้ดีกว่าเดิม สแนปดรากอน 450 นอกจากนี้ 778G ยังมาพร้อมกับความสามารถในการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ที่ทันสมัย โดยมี AI Engine รุ่นที่ 6 ซึ่งรองรับ Hexagon 770 ซึ่งสามารถป้อนคำสั่งได้สูงสุด ชิปเซ็ตนี้ยังรองรับ Snapdragon Elite สำหรับสายเกมมิ่งที่ให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดี

และรายละเอียดที่คมชัดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สแนปดรากอน 871 จะเป็นชิปเซ็ตที่เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่มีระบบกล้องหลายตัวและสามารถรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K และการเชื่อมต่อ 5G ได้ ในทางปฏิบัติจะเป็นชิปเซ็ตที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีสเปคที่ดีและประสิทธิภาพที่สูง

ความแข็งแกร่งของชิปเซ็ท Snap 778G รุ่นใหม่จาก Qualcomm มีความแรงเท่าใด?

ความแข็งแกร่งของชิปเซ็ท Snap 778G รุ่นใหม่จาก Qualcomm มีความแรงเท่าใด?

หากเราย้อนกลับไปเมื่อปีก่อนนี้ จะพบว่าชิปเซ็ทซีรีย์ 778g จากทาง Qualcomm ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในแง่ของประสิทธิภาพ อาจเนื่องมาจากขาดคู่แข่งที่มีความสมเนียมมากพอ แต่ในปัจจุบันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป โดยทาง MediaTek ได้เปิดตัวชิปเซ็ทซีรีย์ Dimensity ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่น่าสนใจและราคาที่เหมาะสมกว่าเครื่องที่ใช้ชิปเซ็ทจาก smartphone 778g ซึ่งทำให้ Qualcomm 

ต้องเปลี่ยนแนวทางในการแข่งขัน ในปีนี้ เราได้เห็นชิปเซ็ทระดับกลาง 778G ที่ถูกใช้งานบนสมาร์ทโฟนระดับกลางมากขึ้น เมื่อเราพิจารณาสเปคของชิปเซ็ทเหล่านี้ จะพบว่า Snap มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงสุดที่ 2.4 GHz เท่านั้น 

ในขณะที่ Dimensity 1200 มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงสุดถึง 3.0 GHz อย่างไรก็ตาม แม้ว่า 778g 4g จะด้อยกว่าในส่วนของความเร็วสัญญาณนาฬิกา แต่ด้วยสถาปัตยกรรม Kryo 670 ที่ใหม่กว่า ARMv8.2A ทำให้ Snap มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันใหม่ๆ ซึ่งอาจจะเป็นจุดเด่นสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องมือในการใช้งานประจำวันของผู้ใช้งาน

ชิปเซ็ตตัวกลาง Qualcomm Snapdragon 778G มีขนาดเล็กที่ 6 นาโนเมตร

ชิปเซ็ตตัวกลาง Qualcomm Snapdragon 778G มีขนาดเล็กที่ 6 นาโนเมตรและสามารถรองรับเทคโนโลยี 5G ได้

ส แน ป ดรากอน 778 ได้เริ่มส่งชิปเซ็ตระดับกลางที่รองรับสัญญาณ 5G ออกมาเรื่อยๆ โดยล่าสุดเป็น Qualcomm 778G ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่มีกำลังการทำงานขนาด 6 นาโนเมตร ชิปเซ็ตนี้จะเสริมความคุ้มค่าของสมาร์ทโฟนในราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น โดย Qualcomm Snap 778G ถูกผลิตขึ้นโดยโรงงาน TSMC ซึ่งมีความแรงน้อยกว่า Qualcomm snap 778g 5g ที่ผลิตจาก Samsung เล็กน้อย และมีขนาดใหญ่กว่า 

โดยขนาดของชิปเซ็ตนี้มีขนาด 6 นาโนเมตรสำหรับฝ่ายแรกและ 5 นาโนเมตรสำหรับฝ่ายหลังใน Qualcomm Snap 778G จะมีแกนทั้งหมด 8 Core โดยประกอบไปด้วย Kryo 670 จำนวน 4 แกน ชิปเซ็ตนี้ใช้ชิปกราฟฟิก Adreno 642L และมีเซ็นเซอร์ ISP ทั้งหมด 3 ตัว 

ซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนสามารถใช้กล้อง 3 เลนส์พร้อมกันได้ และยังสนับสนุนการถ่ายวิดีโอแบบ HDR หรือ HDR10+ อีกด้วย smartphone 7 inch นอกจากนี้ ชิปเซ็ตยังรองรับการรับสัญญาณ 5G ด้วยโมเด็ม Qualcomm X53 5G 

ซึ่งสามารถรองรับความเร็วสูงสุดถึง 3.3 Gbps และเป็นแบบ Dual Mode นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ด้วยระบบที่สนับสนุน ความเร็วสูงสุดถึง 2.9Gbps กำลังเตรียมใช้งานกับสมาร์ทโฟนรุ่นกลางจากแบรนด์ในเร็วๆ นี้ ประกาศออกมาทางสื่อออนไลน์ 

มือถือราคาระดับกลางที่มาพร้อมชิป 778g antutu 5G ได้เปิดตัวแล้ว

มือถือราคาระดับกลางที่มาพร้อมชิป 778g antutu 5G ได้เปิดตัวแล้ว

ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป 778g antutu เราได้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นถึง 15% และรันกราฟิกได้เร็วขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา 680 ซึ่งเป็นชิปเฉพาะสำหรับเทคโนโลยี LTE ใหม่ที่มีการสร้างขึ้นบนกระบวนการ 6nm ที่ทันสมัย ซึ่งมีความสามารถในการช่วยเติมเต็มช่องว่างในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm สำหรับบริษัทที่ยังคงมองหาอุปกรณ์ 4G เท่านั้น 

best 778g smartphone ซึ่งชิปนี้สามารถช่วยลดต้นทุนในประเทศหรือภูมิภาคที่ยังไม่มีการติดตั้งเทคโนโลยี 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีสองชิปเพิ่มเติมที่เป็นเวอร์ชันรีเฟรชของโหมดที่มีอยู่ โดยมี 778G+ ที่เป็นการพัฒนาของรุ่น 778G 

แบบมาตรฐานที่บริษัทได้ประกาศก่อนหน้านี้ในปีนี้ และ 480 Plus ที่เป็นการอัพเกรดจาก 480 ทั้งสองรุ่นนี้มีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐาน 778g smartphone list และมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยความสามารถที่พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ชิปเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานอุปกรณ์ที่ตรงตามความต้องการและงบประมาณได้อย่างมีความพึงพอใจ

สเนปแดรกอน qualcomm x55 ยังเป็นโปรเซสเซอร์ที่ดีหรือไม่? ยังมีความแรงอยู่หรือไม่?

สเนปแดรกอน qualcomm x55 ยังเป็นโปรเซสเซอร์ที่ดีหรือไม่? ยังมีความแรงอยู่หรือไม่?

ชิปเซต qualcomm x55 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือถือในปัจจุบัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานไม่หนักมาก และเน้นการใช้งานทั่วไป เช่น การดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมที่ไม่ต้องการการประมวลผลที่สูงมาก เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบโทรศัพท์ที่มีหน้าจอใหญ่ โดย Snapdragon 695 ยังคงมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี และสามารถเล่นเกมได้อย่างเสถียร โดยไม่มีปัญหาในการประมวลผล qualcomm 778g 5g 

อีกทั้งยังสามารถใช้งานในการทำงานหรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ติดขัด อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการสมาร์ทโฟนที่มีสเปคที่เร็วแรงมากขึ้น คุณอาจพิจารณาที่จะเลือกใช้มือถือที่มาพร้อมกับชิปเซต qualcomm 778g vs 870 ที่มีในโทรศัพท์ Galaxy A52s ซึ่งจะตอบโจทย์การใช้งานที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ชิปเซตนี้มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูง และสามารถรองรับการประมวลผลที่มีความต้องการสูง ทำให้คุณสามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกสูงและประสบการณ์เล่นเกมที่สมจริงได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานในการทำงานหรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่เลือกใช้ชิป Snapdragon 778G รุ่นพิเศษเนื่องจากอุณหภูมิสูงและราคาสูง

Snap เป็นรุ่นพิเศษของ qualcomm stock ที่เปิดตัวในช่วงกลางปี โดยมีสถาปัตยกรรมซีพียูจีพียูโมเด็ม เหมือนกันทั้งหมด แต่มีการเพิ่มฟีเจอร์ wireless charging และ reverse wireless charging เข้ามา ซึ่งเป็นความสามารถที่ไม่มีในชิป Snapdragon รุ่นบนๆ นี้ การเลือกใช้นี้เป็นเรื่องสมดุลระหว่างประสิทธิภาพพลังงานและราคา โดย Carl Pei ซีอีโอของ Nothing 

ได้อธิบายว่าการใช้ชิปที่มีประสิทธิภาพสูงกว่านี้อาจไม่คุ้มกับราคาและความร้อนที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ Snap ให้ประสิทธิภาพที่ดีพอในอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนาน เมื่อเทียบกับชิป qualcomm 5g รุ่นอื่น ๆ ที่ออกมาในช่วงเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีมุมมองว่าสเปกของมือถือไม่มีผลสำคัญแล้ว และก่อนที่เขาจะลาออกจาก OnePlus เขาได้ดูแลมือถือซีรีส์ Nord ที่ใช้ชิประดับกลาง แต่พยายามเน้นประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่น 

ดังนั้น มือถือที่ใช้ชิปเซต 695 ยังคงน่าสนใจสำหรับผู้ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ถ่ายรูป หรือใช้ทำงาน qualcomm 720g ก็สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล สมาร์ทโฟน Galaxy A23 5G 

ที่มาพร้อมกับชิป 695 นั้นเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานมือถือได้อีกขั้น ด้วยหน้าจอที่ใหญ่เต็มตา ความละเอียด FHD+ และอัตรารีเฟรช 120Hz ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว snapdragon 778g